สูตรที่ 16
[423] 177. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 2 อย่าง 2 อย่าง
เป็นไฉน คือ ความเป็นคนหลงลืมสติ 1 ความไม่รู้สึกตัว 1 ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย ธรรม 2 อย่างนี้แล.
จบสูตรที่ 16
สูตรที่ 17
[424] 178. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 2 อย่างนี้ 2 อย่าง
เป็นไฉน คือ สติ 1 สัมปชัญญะ 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 2
อย่างนี้แล.
จบสูตรที่ 17
จบสมาปัตติวรรคที่ 5
จบตติยปัณณาสก์
สมาปัตติวรรค1ที่ 5
อรรถกถาสูตรที่ 1
สมาปัตติวรรคที่ 5 สูตรที่ 1 (ข้อ 408) มีวินัยดังต่อไปนี้.
บทว่า สมาปตฺติกุสลตา ได้แก่ความเป็นผู้ฉลาดในการกำหนด
อาหารสัปปายะเข้าสมาบัติ. บทว่า สมาปตฺติวุฏฺฐานกุสลตา ความว่า
เมื่อได้เวลาตามกำหนดเป็นผู้ฉลาดออก. ชื่อว่าเป็นผู้ฉลาดในการออกจาก
1. วรรคนี้ประกอบด้วยพระสูตร 18 สูตร อรรถกถาแก้ไว้สั้น ๆ จึงลงติดต่อกันไปทั้งวรรค
โดยลงหัวข้อบาลีประจำสูตรประจำสูตรกำกับไว้ด้วย.
สมาบัติ เพราะฉะนั้น ผู้นี้ชื่อว่าฉลาด ดังนี้.
จบอรรถกถาสูตรที่ 1
อรรถกถาสูตรที่ 2
ในสูตรที่ 2 (ข้อ 409) มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า อาชฺชวํ แปลว่า ความตรง. บทว่า มทฺทวํ แปลว่า
ความอ่อนโยน.
จบอรรถกถาสูตรที่ 2
อรรถกถาสูตรที่ 3
ในสูตรที่ 3 (ข้อ 401) มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า ขนฺติ ได้แก่ อธิวาสนขันติ. บทว่า โสรจฺจํ ได้แก่
ความเรียบร้อย ความสงบเสงี่ยม.
จบอรรถกถาสูตรที่ 3
อรรถกถาสูตรที่ 4
ในสูตรที่ 4 (ข้อ 411) มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า สาขลฺยํ ได้แก่ ความชื่นชมโดยใช้วาจาอ่อนหวาน.
บทว่า ปฏิสนฺถาโร ได้แก่ การต้อนรับด้วยอามิสก็ตาม ด้วยธรรมก็ตาม
ชื่อว่าปฏิสันถาร.
จบอรรถกถาสูตรที่ 4